ภาพถ่าย ‘พรีเวดดิ้ง’ เป็นอีกหนึ่งการเตรียมตัวที่สำคัญในงานแต่งงาน เพราะสามารถส่งต่อความรู้สึก อารมณ์ ของคู่รักให้กับผู้ร่วมงานได้รับรู้ รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของความรักจากภาพที่ถ่ายทอดออกมาอีกด้วย
ภาพถ่าย ‘พรีเวดดิ้ง’ เป็นอีกหนึ่งการเตรียมตัวที่สำคัญในงานแต่งงาน เพราะสามารถส่งต่อความรู้สึก อารมณ์ ของคู่รักให้กับผู้ร่วมงานได้รับรู้ รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของความรักจากภาพที่ถ่ายทอดออกมาอีกด้วย
ซึ่งปัจจุบันการถ่ายพรีเวดดิ้งยังมีทางเลือกทั้งแบบเอาต์ดอร์ และการถ่ายรูปสตูดิโอ ซึ่งคู่รักหลายคู่อาจกำลังตัดสินใจว่าควรถ่ายภาพแบบไหนดีที่จะตอบโจทย์ได้มากกว่ากัน วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อดีการถ่ายภาพในสตูดิโอให้ได้รู้กัน
ตามปกติแล้วการถ่ายรูปแต่งงานมักใช้เวลาครึ่งวัน หรือหนึ่งวันตามแต่กำหนด ซึ่งหากเป็นการถ่ายนอกสถานที่ที่ต้องมีการเปลี่ยนโลเคชั่นหลายครั้ง ก็อาจทำให้ต้องเสียเวลาทั้งการขนย้ายอุปกรณ์ รวมถึงการต้องจัดไฟกันใหม่ในแต่ละสถานที่ จนกินเวลาในการถ่ายรูปไปมาก ซึ่งข้อดีการถ่ายภาพในสตูดิโอ คือความง่ายต่อการกำหนดเวลา เพราะไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนสถานที่และขนย้ายอุปกรณ์ ทำให้ได้ใช้เวลาเพื่อการถ่ายรูปอย่างคุ้มค่ามากกว่า
โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีแดดร้อนจัด และมีฝนตกอย่างคาดเดาไม่ได้ ที่นอกจากจะเป็นปัญหาใหญ่จนอาจทำให้ต้องยกเลิกการถ่ายภาพ หรือต้องหยุดชะงักกลางคันแล้ว ยังส่งผลต่อเมคอัพ หรือการแต่งหน้าแต่งตัวของคู่แต่งงาน ที่จะต้องคอยมาเติม มาแก้ ซับเหงื่อ ซับหน้า เช็ดตัวกันให้ยุ่งยากไปหมด แตกต่างจากการถ่ายภาพในสตูดิโอที่มีอุณหภูมิคงที่อยู่ในห้องแอร์ ทำให้ได้หน้าผมเป๊ะตลอดการถ่ายภาพ
แสง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ เพราะเป็นเหมือนฟิลเตอร์ที่จะควบคุมมู้ดแอนด์โทนของภาพรวมทั้งหมด ดังนั้นการจะออกกองถ่ายนอกสถานที่เพื่อให้ได้แสงสวยเป็นธรรมชาติจึงอาจต้องเลือกและกำหนดช่วงเวลาในการถ่ายให้ดี ซึ่งช่วงเวลาที่แสงสวยก็มักอยู่ในช่วง 07.00 – 9.00 น. และ 14.00 – 18.00 น. ทำให้เวลาในการถ่ายรูปมีจำกัด อีกทั้งตามปกติแล้วแสงในประเทศไทยจะมีโทนสีที่ให้ภาพขาวสว่างจนอาจไม่เหมาะกับบรรยากาศอบอุ่นของการถ่ายรูปแต่งงานเท่าไรนัก การถ่ายรูปสตูดิโอจึงช่วยลดปัญหานี้ได้ เพราะสามารถเลือกจัดแสงเองได้ตามต้องการทั้ง ปริมาณ จำนวน ลักษณะและทิศทางของแสง จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รูปที่มีคุณภาพดีภาพคมชัด โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องเวลาในการถ่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คู่บ่าวสาวที่มีการแต่งตัวด้วยชุดที่สวยงามอลังการหลากหลายชุด การถ่ายรูปสตูดิโอที่มีทั้งห้องน้ำและห้องแต่งตัวคอยให้บริการ อาจจะเหมาะสมมากที่สุด อีกทั้งยังสะดวกต่อการกินอาหาร เพราะสามารถเลือกสั่งขนม น้ำ และอาหารต่าง ๆ เตรียมไว้ได้ตั้งแต่แรก โดยไม่ต้องคอยแบกไปมา หรือต้องนั่งกินตามพื้นที่สาธารณะที่อาจไม่สะดวกสบายกับคู่บ่าวสาวที่ต้องใส่ชุดแต่งงาน รวมถึงยังจะสะดวกกับทีมงานด้วย
งบประมาณยังคงเป็นเรื่องสำคัญในลำดับต้น ๆ ซึ่งนอกจากค่าช่างภาพที่จำเป็นสำหรับการถ่ายรูปแต่งงานแล้ว ก็ยังมีค่าช่างทำผม ช่างแต่งหน้า ค่าเสื้อผ้า ซึ่งหากเป็นการถ่ายนอกสถานที่ก็ยังต้องมีค่าเดินทาง ค่าเช่าสถานที่ หรือแม้แต่การสำรองค่าที่พักให้สำหรับการต้องออกไปต่างจังหวัด รวมถึงอาจต้องเผื่อเงินไว้สำหรับการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในการออกนอกสถานที่ด้วย แต่การถ่ายภาพในสตูดิโอจะสามารถช่วยกำหนดงบประมาณได้ง่ายกว่า หรืออาจประหยัดกว่าอีกด้วย
เลือกถ่ายรูปสตูดิโอเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลายแถมได้ภาพสวยน่าประทับใจกับ Solove Wedding Studio สตูดิโอแต่งงานที่ให้บริการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งอย่างมืออาชีพด้วยประสบการณ์การถ่ายภาพในสตูดิโอกว่า 20 ปี พร้อมความเชี่ยวชาญในการจัดแสง สี และองค์ประกอบต่าง ๆ เพื่อให้ได้ภาพแต่งงานที่น่าจดจำ พร้อมทีมงานที่จะคอยให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง ติดต่อเราได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์ 085-2446491 หรือ Line Official @solove
Copyright Solove Wedding Studio
ใส่ความเห็น