เปิดเช็กลิสต์สำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อวันพิเศษ
1. หาฤกษ์แต่งงานให้พร้อม ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี
สิ่งแรกที่จำเป็นสำหรับการเตรียมงานแต่ง คือการหาฤกษ์แต่งงาน ซึ่งควรกำหนดและเลือกวันเวลาที่มีฤกษ์งามยามดีเป็นมงคลล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี โดยต้องคำนึงถึงความสะดวกของทุกฝ่าย ทั้งทีมผู้จัดงานและแขกที่จะเข้าร่วม ยิ่งสามารถกำหนดฤกษ์ หรือวันแต่งล่วงหน้าได้มากเท่าไร ยิ่งสามารถทำให้มีเวลาในการเริ่มวางแผนได้มากขึ้นว่าการแต่งงานต้องเตรียมอะไรบ้างและสามารถจัดเตรียมได้โดยไม่เร่งรีบ
2. กำหนดงบประมาณที่มี
หลังจากได้ฤกษ์วันแต่งงานแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือกำลังจ่าย หรืองบประมาณในการเตรียมงานแต่ง โดยจะต้องคำนึงถึงการจัดงานอย่างครอบคลุมว่าจะมีแขกกี่คนและนำมาคิดเป็นค่าหัว พร้อมกับคำนวณเงินส่วนตัวของคู่บ่าวสาวและเงินสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อกำหนดงบประมาณโดยรวมและนำไปคำนวณต่อถึงความเป็นไปได้ของงานที่จะเกิดขึ้น โดยไม่ให้ไปกระทบกับการใช้เงินในชีวิตประจำวัน
3. ลิสต์รายชื่อแขกให้ครบ
เริ่มจากการแยกรายชื่อให้ชัดเจนโดยคิดควบคู่ไปกับงบประมาณร่วมกับครอบครัว ว่าจะสามารถเชิญได้กี่คนและควรเชิญใครมาบ้าง ทั้งแขกญาติผู้ใหญ่ของพ่อแม่ เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมงาน เพราะอาจมีรายชื่อซ้ำ หรือการต้องเลือกตัดแขกบางคนออก การทำข้อสรุปร่วมกันจะช่วยทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาได้น้อยที่สุด
4. มองหาสถานที่ รวมถึงที่พักสำหรับแขกในครอบครัว
เมื่อรู้ทั้งเวลา งบประมาณ รวมถึงจำนวนแขกที่จะเข้าร่วมงานแล้ว ขั้นต่อไปของสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนแต่งงาน คือการจัดหาสถานที่ เนื่องจากสถานที่ยอดนิยมที่ทำเลดี มีห้องประชุมหลากหลาย มักถูกจองในวันที่ฤกษ์งามยามดีอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การจับจองตั้งแต่รู้วันเวลาก็จะทำให้สามารถมีตัวเลือกได้มากขึ้น รวมถึงให้ทำการจองห้องพักในสถานที่จัดงานเพื่อความสะดวกในการเตรียมตัวในวันแต่งของบ่าวสาวและครอบครัวไว้ให้เรียบร้อยไปพร้อมกัน
5. เลือกธีมงานแต่ง
สิ่งที่จะทำให้การเตรียมงานแต่งง่ายขึ้น คือการเลือกธีมงานแต่งงาน เพื่อกำหนดโทนสีที่จะใช้ในการตกแต่งภายในงาน รวมถึงธีมสีชุดของผู้ร่วมงาน เพื่อให้สามารถถ่ายรูปออกมาได้อย่างสวยงามไปในโทนเดียวกับภาพฝันที่คู่บ่าวสาวต้องการ
6. ดูของชำร่วย และพิมพ์การ์ด
เมื่อเริ่มเลือกธีมได้แล้ว ต่อมาคือการเลือกของชำร่วยและรูปแบบการ์ดงานแต่ง โดยคำนึงถึงธีมหลักของงานและงบประมาณเป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่บ่าวสาวควรตกลงร่วมกันเพื่อเลือกรูปแบบ สี สไตล์ที่ตรงตามความต้องการ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเหมือนของที่ระลึกที่อยู่ในใจของผู้มาร่วมงานไปตลอด
7. เลือกชุดบ่าวสาว
นี่คงเป็นขั้นตอนที่เจ้าสาวหลายคนฝันถึง ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านบริการเวดดิ้งเกิดขึ้นมากมาย โดยอาจเลือกได้เป็นแพ็กเกจพร้อมบริการอื่น หรือเลือกเช่าชุดอย่างเดียว สิ่งสำคัญคือการเลือกร้านที่มีแบบชุดให้เลือกหลากสไตล์หลายไซซ์ เพื่อให้เหมาะสมสวยงาม สร้างความทรงจำในทุกช่วงเวลาสำคัญให้แก่เจ้าสาวเจ้าบ่าวได้มากที่สุด
8. จองคิวช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างผม
นอกจากชุดแต่งงานแล้ว สิ่งที่ช่วยสร้างความทรงจำสวยงามให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวและผู้ร่วมงานได้มากที่สุด คือการเลือกช่างแต่งหน้า ช่างผม รวมถึงช่างภาพที่จะเนรมิตภาพลักษณ์สวยงามของบ่าวสาวให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งควรจองคิวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะยิ่งถ้าเป็นช่างคนดัง ยิ่งอาจมีคิวยาวเหยียดข้ามปีกันเลย
9. ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง
ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งจะเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราว ทำให้ผู้มาร่วมงานได้เห็นถึงความรัก ความผูกพันของคู่บ่าวสาว อีกทั้งยังสามารถสร้างความทรงจำได้ด้วยภาพสวย ๆ ที่เก็บไว้ได้ตลอดไป ซึ่งก็มีทั้งการถ่ายกลางแจ้งและในสตูดิโอ แล้วแต่ความต้องการของคู่แต่งงาน
10. ดูเรื่องงานเลี้ยง อาหาร เครื่องดื่ม
อีกสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนแต่งงานมาถึง คือการจัดการเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเลี้ยงแขก รวมถึงเค้กแต่งงาน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเลี้ยงอาหารแขกด้วยรูปแบบไหน เช่น โต๊ะจีน ค็อกเทล บุฟเฟต์ ซึ่งควรเลือกให้มีความหลากหลาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เนื่องจากแขกบางคนอาจแพ้อาหารบางชนิด
หากการเตรียมงานแต่งเป็นไปอย่างราบรื่นตามเช็กลิสต์นี้ ก็มั่นใจได้เลยว่างานแต่งของคุณจะต้องสมบูรณ์เพียบพร้อม สร้างความทรงจำสวยงามได้อย่างแน่นอน และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านเช่าชุดแต่งงาน ที่ Solove Wedding เรามีชุดแต่งงานพร้อมให้บริการหลากหลายสไตล์ มั่นใจด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์มานานกว่า 20 ปี พร้อมช่วยดูแลและให้คำแนะนำในการเลือกชุดที่เหมาะกับสไตล์ของคุณมากที่สุด โดยสามารถเข้ามาติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลได้เลยที่ เบอร์โทรศัพท์ 085-2446491 หรือ Line Official @solove